พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
ประวัติหลวงพ่อม...
ประวัติหลวงพ่อมา วัดป่ามะม่วง อ.กงไกรลาศ จว.สุโขทัย
หลวงพ่อมา วัดป่ามะม่วง ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย.....จากคุณ @ญาณกีรติ กัทลีรัตน์ เผยแพร่บารมีคับ
......ประวัติพระครูวิมลปรีชา (มา) ...
พระครูวิมลปรีชา (หลวงพ่อมา) เกิดเมื่อปีฉลู พ.ศ.2420 บิดาท่านชื่อ พรม พรมตรุษ เป็นคนบ้านป่ามะม่วง ต.บ้านไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ส่วนมารดาของท่านชื่อ ฉ่ำ พรมตรุษ เป็นคนบ้านหนองเรียง ต.บ้านซ่าน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ท่านมีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 7 คนคือ
คนที่ 1 เป็นหญิงชื่อ คง คนที่ 2 เป็นชายชื่อ หู้ คนที่ 3 เป็นหญิงชื่อ อ่อน คนที่ 4 เป็นชายชื่อ บุญ คนที่ 5 คือหลวงพ่อมา คนที่ 6 เป็นหญิงชื่อ ไกร คนที่ 7 เป็นชายชื่อ มี
เมื่อแรกเกิดบิดามารดาได้อาศัยอยู่ ณ บ้านหนองเรียง ต.บ้านซ่าน อ.ศรีสำโรง ต่อมาเมื่อหลวงพ่อมาเริ่มจำความได้ บิดามารดาของท่านได้ย้ายกลับมายังบ้านป่ามะม่วง ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ต่อมาอีกไม่นานมารดาของท่านได้ถึงแก่กรรม และบิดาของท่านก็ได้มีภรรยาใหม่ชื่อว่า อยู่ มีบุตรด้วยกันอีก 2 คนคือ คนที่ 1 เป็นหญิงชื่อ โต คนที่ 2 เป็นหญิงชื่อ เล็ก
หลวงพ่อมาได้บวชเป็นสามเณรและเรียนหนังสือที่วัดมาลัยป่ามะม่วงตั่งแต่เล็กจนกระทั่งอ่านออกเขียนได้และรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปี ในปี พ.ศ. 2440 ท่านก็ได้อุปสมบทที่วัดป่าแฝก ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย โดยมีเจ้าอธิการเผือก เจ้าอาวาสวัดป่าแฝก (วัดทุ่งเนินพยอม) เป็นอุปัชฌาย์ สำหรับพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมานี้ เดิมทีไม่มีใครทราบ จนกระทั้งผู้ที่ได้เรียบเรียงประวัติของหลวงพ่อมาคนแรกได้ยืมหนังสือ "บันทึกของคนท้องถิ่น" ซึ่งเป็นหนังสือโครงการท้องถิ่นศึกษา คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จากคุณ สมชาย เดือนเพ็ญ นักประวัติศาสตร์แห่งสวรรคโลกมาอ่าน เรื่องอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมา จึงกระจ่างเพราะเรื่องราวของอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมาปรากฏอยู่ในความตอนหนึ่งของหนังสือเล่มดังกล่าว คือตอนที่กล่าวถึงจดหมายเหตุสมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจการณ์ในมณฑลภาคเหนือ พ.ศ. 2457 เมืองสวรรคโลก และเมืองสุโขทัย ความว่า
วันที่ 6 ธ ค. เวลาจวนทุ่ม ทรงทราบว่า แขวงกงไกรลาศว่างเจ้าคณะแขวง เจ้าคณะเมืองยก "พระมา" ขึ้นเป็นผู้รั้ง ข้ามเจ้าอธิการเผือก อายุ 72 พรรษา 52 ผู้เป็นอุปัชฌาย์ของเธอ และพระอื่นๆในแขวงนั้นทั้งหมด ไม่โปรด ทรงตรัสว่าเป็นการข้ามผู้ใหญ่ไป แม้นถึงแก่ชรา ทำการงานไม่ไหว ใช้ศิษย์ของตนก็ยังได้ ที่ถูกควรตั้งเจ้าอธิการเผือกเป็นเจ้าคณะแขวงกิตติมศักดิ์ แล้วค่อยยก พระมาเป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวงตามเดิม จึงจะไม่เป็นการข้ามผู้ใหญ่ จักได้ประโยชน์ทั้งสองทาง แล้วประทานย่ามต่างชั้นและหนังสือพระศาสนาต่างอย่างแก่พระสงฆ์ตามสมควรแก่คุณานุรูป
วันที่ 7 ธ ค. เวลาเช้า ประทานใบตั้ง เจ้าอธิการเผือก อายุ 72 พรรษา 52 วัดเนินพยอม เป็นพระครูเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศโดยกิตติมศักดิ์
จากจดหมายเหตุฯดังกล่าว ทำให้เราทราบว่า พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมาก็คือ เจ้าอธิการเผือกนั้นเอง อีกทั้งทราบด้วยว่า ก่อนที่สมเด็จพระสังฆราชฯจะเสด็จมาตรวจการณ์เมืองสุโขทัยในปี พ.ศ. 2457 นั้น หลวงพ่อมาท่านได้เป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศอยู่ก่อนแล้ว โดยการเห็นชอบของเจ้าคณะเมืองสุโขทัย แต่สมเด็จพระสังฆราชฯทรงเห็นว่าเป็นการข้ามพระผู้ใหญ่ไป โดยเฉพาะข้ามอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อเอง สมเด็จพระสังฆราชฯจึงจัดการตั้งเจ้าอธิการเผือกขึ้นเป็นพระครูเจ้าคณะแขวงโดยกิตติมศักดิ์ แล้วตั้งให้หลวงพ่อมา (ในจดหมายเหตุเรียกพระมา) เป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวงตามเดิม จึงจะเป็นการเหมาะสม ด้วยบันทึกดังกล่าวเราจึงสรุปได้ว่า หลวงพ่อมาท่านเป็นเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศ โดยความเห็นชอบของสมเด็จพระสังฆราชฯ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2457 เมื่อหลวงพ่อมามีอายุได้ 37 พรรษา 17
หลังจากได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสังฆราชฯให้เป็นเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศแล้ว 7 ปี (พ.ศ. 2464) หลวงพ่อมา (คณะนั้นเป็นพระครูแล้ว) ท่านก็เริ่มสร้างโบสถ์วัดมาลัยทันทีเพราะขณะนั้นวัดมาลัยได้ชื่อว่าเป็นวัดของเจ้าคณะแขวงอย่างเต็มตัวแต่ยังเป็นวัดที่ไม่มีโบสถ์แต่อย่างใด มีการวางศิลาฤกษ์โบสถ์วัดมาลัยโดยหลวงพ่อมาได้อาราธนาหลวงพ่อเอมวัดคลองโปร่ง เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัยสมัยนั้นซึ่งชอบพอกันอยู่มาเป็นผู้วางศิลาฤกษ์
ต่อมาในวันที่ 12 ธ ค.2464 ปีเดียวกัน หลวงพ่อมาซึ่งคณะนั้นเป็น "พระครูมา"แล้ว ท่านก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก รัชกาลที่ 6 พระราชทานตั้งสมณศักดิ์สัญญาบัตรพัดยศที่ "พระครูวิมลปรีชา"
พ.ศ.2468 ทำการผูกพัทธสีมาโบสถ์วัดมาลัย
พ.ศ.2473 โบสถ์วัดมาลัย (ป่ามะม่วง) เสร็จสมบรูณ์
ผู้เข้าชม
8091 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
โชว์พระ
โดย
lynn
ชื่อร้าน
ภิรมย์พร
ร้านค้า
Bhunyapat.99wat.com
โทรศัพท์
0954103475
ไอดีไลน์
-
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน
เหรียญสมเด็จพระนเรศวรเผด็จศึก
เหรียญรุ่นแรก ลพ-ยิด พิมพ์นิยม
ตะกรุด ๑๐๘ เนื้อ ๓ กษัตริย์ ลพ
เหรียญหล่อโบราณพระพุทธชินราช ล
รูปหล่อโบราณหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง
พระบูชา หลวงพ่อยิด รุ่นสร้างหอ
เหรียญพระพุทธชินราชหลังสมเด็จพ
พระชัยวัฒน์สี่มุมเมือง พัทลุง
เหรียญอาจารย์นำ
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
ศิษย์หลวงปู่หมุน
tintin
โกหมู
ตุ๊ก แปดริ้ว
เจริญสุข
เนินพระ99
Poosuphan89
Kittipan
Le29Amulet
nengggg
อาร์ตกำแพงเพชร
warunyu
nattapol
นายสามหมอ
hopperman
น้ำตาลแดง
ep8600
เพ็ญจันทร์
นรินทร์ ทัพไทย
aonsamui
ทองธนบุรี
สยามพระเครื่องไทย
บี บุรีรัมย์
ภูมิ IR
Muthita
NongBoss
kaew กจ.
แหลมร่มโพธิ์
Pookie888
นานา
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1346 คน
เพิ่มข้อมูล
ประวัติหลวงพ่อมา วัดป่ามะม่วง อ.กงไกรลาศ จว.สุโขทัย
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
ประวัติหลวงพ่อมา วัดป่ามะม่วง อ.กงไกรลาศ จว.สุโขทัย
รายละเอียด
หลวงพ่อมา วัดป่ามะม่วง ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย.....จากคุณ @ญาณกีรติ กัทลีรัตน์ เผยแพร่บารมีคับ
......ประวัติพระครูวิมลปรีชา (มา) ...
พระครูวิมลปรีชา (หลวงพ่อมา) เกิดเมื่อปีฉลู พ.ศ.2420 บิดาท่านชื่อ พรม พรมตรุษ เป็นคนบ้านป่ามะม่วง ต.บ้านไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ส่วนมารดาของท่านชื่อ ฉ่ำ พรมตรุษ เป็นคนบ้านหนองเรียง ต.บ้านซ่าน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ท่านมีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 7 คนคือ
คนที่ 1 เป็นหญิงชื่อ คง คนที่ 2 เป็นชายชื่อ หู้ คนที่ 3 เป็นหญิงชื่อ อ่อน คนที่ 4 เป็นชายชื่อ บุญ คนที่ 5 คือหลวงพ่อมา คนที่ 6 เป็นหญิงชื่อ ไกร คนที่ 7 เป็นชายชื่อ มี
เมื่อแรกเกิดบิดามารดาได้อาศัยอยู่ ณ บ้านหนองเรียง ต.บ้านซ่าน อ.ศรีสำโรง ต่อมาเมื่อหลวงพ่อมาเริ่มจำความได้ บิดามารดาของท่านได้ย้ายกลับมายังบ้านป่ามะม่วง ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ต่อมาอีกไม่นานมารดาของท่านได้ถึงแก่กรรม และบิดาของท่านก็ได้มีภรรยาใหม่ชื่อว่า อยู่ มีบุตรด้วยกันอีก 2 คนคือ คนที่ 1 เป็นหญิงชื่อ โต คนที่ 2 เป็นหญิงชื่อ เล็ก
หลวงพ่อมาได้บวชเป็นสามเณรและเรียนหนังสือที่วัดมาลัยป่ามะม่วงตั่งแต่เล็กจนกระทั่งอ่านออกเขียนได้และรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปี ในปี พ.ศ. 2440 ท่านก็ได้อุปสมบทที่วัดป่าแฝก ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย โดยมีเจ้าอธิการเผือก เจ้าอาวาสวัดป่าแฝก (วัดทุ่งเนินพยอม) เป็นอุปัชฌาย์ สำหรับพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมานี้ เดิมทีไม่มีใครทราบ จนกระทั้งผู้ที่ได้เรียบเรียงประวัติของหลวงพ่อมาคนแรกได้ยืมหนังสือ "บันทึกของคนท้องถิ่น" ซึ่งเป็นหนังสือโครงการท้องถิ่นศึกษา คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จากคุณ สมชาย เดือนเพ็ญ นักประวัติศาสตร์แห่งสวรรคโลกมาอ่าน เรื่องอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมา จึงกระจ่างเพราะเรื่องราวของอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมาปรากฏอยู่ในความตอนหนึ่งของหนังสือเล่มดังกล่าว คือตอนที่กล่าวถึงจดหมายเหตุสมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจการณ์ในมณฑลภาคเหนือ พ.ศ. 2457 เมืองสวรรคโลก และเมืองสุโขทัย ความว่า
วันที่ 6 ธ ค. เวลาจวนทุ่ม ทรงทราบว่า แขวงกงไกรลาศว่างเจ้าคณะแขวง เจ้าคณะเมืองยก "พระมา" ขึ้นเป็นผู้รั้ง ข้ามเจ้าอธิการเผือก อายุ 72 พรรษา 52 ผู้เป็นอุปัชฌาย์ของเธอ และพระอื่นๆในแขวงนั้นทั้งหมด ไม่โปรด ทรงตรัสว่าเป็นการข้ามผู้ใหญ่ไป แม้นถึงแก่ชรา ทำการงานไม่ไหว ใช้ศิษย์ของตนก็ยังได้ ที่ถูกควรตั้งเจ้าอธิการเผือกเป็นเจ้าคณะแขวงกิตติมศักดิ์ แล้วค่อยยก พระมาเป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวงตามเดิม จึงจะไม่เป็นการข้ามผู้ใหญ่ จักได้ประโยชน์ทั้งสองทาง แล้วประทานย่ามต่างชั้นและหนังสือพระศาสนาต่างอย่างแก่พระสงฆ์ตามสมควรแก่คุณานุรูป
วันที่ 7 ธ ค. เวลาเช้า ประทานใบตั้ง เจ้าอธิการเผือก อายุ 72 พรรษา 52 วัดเนินพยอม เป็นพระครูเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศโดยกิตติมศักดิ์
จากจดหมายเหตุฯดังกล่าว ทำให้เราทราบว่า พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมาก็คือ เจ้าอธิการเผือกนั้นเอง อีกทั้งทราบด้วยว่า ก่อนที่สมเด็จพระสังฆราชฯจะเสด็จมาตรวจการณ์เมืองสุโขทัยในปี พ.ศ. 2457 นั้น หลวงพ่อมาท่านได้เป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศอยู่ก่อนแล้ว โดยการเห็นชอบของเจ้าคณะเมืองสุโขทัย แต่สมเด็จพระสังฆราชฯทรงเห็นว่าเป็นการข้ามพระผู้ใหญ่ไป โดยเฉพาะข้ามอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อเอง สมเด็จพระสังฆราชฯจึงจัดการตั้งเจ้าอธิการเผือกขึ้นเป็นพระครูเจ้าคณะแขวงโดยกิตติมศักดิ์ แล้วตั้งให้หลวงพ่อมา (ในจดหมายเหตุเรียกพระมา) เป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวงตามเดิม จึงจะเป็นการเหมาะสม ด้วยบันทึกดังกล่าวเราจึงสรุปได้ว่า หลวงพ่อมาท่านเป็นเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศ โดยความเห็นชอบของสมเด็จพระสังฆราชฯ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2457 เมื่อหลวงพ่อมามีอายุได้ 37 พรรษา 17
หลังจากได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสังฆราชฯให้เป็นเจ้าคณะแขวงกงไกรลาศแล้ว 7 ปี (พ.ศ. 2464) หลวงพ่อมา (คณะนั้นเป็นพระครูแล้ว) ท่านก็เริ่มสร้างโบสถ์วัดมาลัยทันทีเพราะขณะนั้นวัดมาลัยได้ชื่อว่าเป็นวัดของเจ้าคณะแขวงอย่างเต็มตัวแต่ยังเป็นวัดที่ไม่มีโบสถ์แต่อย่างใด มีการวางศิลาฤกษ์โบสถ์วัดมาลัยโดยหลวงพ่อมาได้อาราธนาหลวงพ่อเอมวัดคลองโปร่ง เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัยสมัยนั้นซึ่งชอบพอกันอยู่มาเป็นผู้วางศิลาฤกษ์
ต่อมาในวันที่ 12 ธ ค.2464 ปีเดียวกัน หลวงพ่อมาซึ่งคณะนั้นเป็น "พระครูมา"แล้ว ท่านก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก รัชกาลที่ 6 พระราชทานตั้งสมณศักดิ์สัญญาบัตรพัดยศที่ "พระครูวิมลปรีชา"
พ.ศ.2468 ทำการผูกพัทธสีมาโบสถ์วัดมาลัย
พ.ศ.2473 โบสถ์วัดมาลัย (ป่ามะม่วง) เสร็จสมบรูณ์
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
8180 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
lynn
ชื่อร้าน
ภิรมย์พร
URL
http://www.Bhunyapat.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0954103475
ID LINE
-
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี